นายกรัฐมนตรี ระบุหากขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่มอีกเพียงร้อยละ 1 ก็จะทำให้รัฐมีรายได้เพิ่มนับแสนล้านบาท สามารถนำมาใช้พัฒนาประเทศต่อไปได้



นายกรัฐมนตรี ระบุหากขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่มอีกเพียงร้อยละ 1 ก็จะทำให้รัฐมีรายได้เพิ่มนับแสนล้านบาท สามารถนำมาใช้พัฒนาประเทศต่อไปได้


วันนี้ (09 มี.ค. 60) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ( คสช.) ได้กล่าวช่วงหนึ่ง ระหว่างลงพื้นที่จ.ปราจีนบุรี เพื่อพบปะประชาชน ข้าราชการ และผู้ประกอบการ ว่า ประเทศไทยอยู่ด้วยระบบทุนนิยมเสรี เงินภาษีเป็นรายได้ของประเทศ ซึ่งมีการเรียกเก็บจากหลายส่วน โดยภาษีเงินได้บุคคลธรรมดานั้น ผู้ที่มีรายได้เป็นเงินเดือนอย่างข้าราชการต้องเสียภาษีเต็มจำนวนทั้งหมด ขณะที่ประชาชนทั่วไปเสียภาษีทางอ้อมจากการเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม หรือ vat ซึ่งปัจจุบันยังเก็บอยู่ที่ร้อยละ 7 มาหลายปี ทั้งที่ตามแผนจะต้องปรับขึ้นเป็นร้อยละ 10 มานานแล้ว แต่รัฐบาลที่ผ่านมาได้ชะลอการปรับขึ้นไว้ ซึ่งหากยอมปรับภาษีมูลค่าเพิ่มขึ้นเพียงร้อยละ 1 ก็จะทำให้มีรายได้ประเทศเพิ่มขึ้นกว่าแสนล้านบาท

จึงอยากขอร้องให้ทุกคนช่วยกันเสียสละ เพราะจะทำให้งบประมาณของรัฐเพิ่มขึ้น เพื่อเอางบประมาณดังกล่าวไปดำเนินการในสิ่งที่ประชาชนเรียกร้อง แต่ขณะเดียวกันเพื่อไม่ให้เป็นภาระกับประชาชน ราคาสินค้าจึงไม่ควรปรับเพิ่มขึ้นมากนัก พร้อมกับยืนยันว่ารัฐบาลไม่ได้ขาดเงินและไม่ได้รีดภาษีอย่างที่ถูกกล่าวอ้าง เพียงแต่ต้องควบคุมการเสียภาษีให้ถูกต้อง เพราะที่ผ่านมาละเลยและไม่สุจริต จึงต้องไล่เรื่องนี้ให้หมด เพื่อมาชดเชยสิ่งที่ขาด

เพราะขณะนี้รัฐบาลมีรายจ่ายสูงกว่ารายรับ หากไม่ทำเช่นนี้ก็จะล้มละลายทั้งประเทศ แต่ยังยืนยันว่าสามารถบริหารจัดการได้ เงินกู้ต่างๆ อยู่ในกรอบทั้งหมด และหนี้สาธารณะลดลง

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สิ่งที่รัฐบาลกำลังลงทุนในโครงการต่างๆจะก่อให้เกิดมูลค่าและรายได้ในปีหน้าและปีต่อไป ทั้งรถไฟความเร็วสูง รถไฟทางคู่ แต่หลายอย่างรัฐบาลไม่สามารถทำเร็วมากได้ เพราะยังติดขัดเรื่องข้อกฎหมาย พร้อมกับขอร้องให้อย่าทำอะไรตามใจมากนัก

ที่มาข่าว http://news.mthai.com/politics-news/553008.html

ไม่มีความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.